วิธีแก้ปัญหาผนังส่วนต่อเติมชิดแนวรั้วเกิดความชื้น

   ผนังส่วนต่อเติมชิดแนวรั้วเกิดความชื้น มีวิธีแก้ปัญหาหรือการป้องกันอย่างไร

                    ความชื่นจากข้างบ้าน

 การต่อเติมผนังบ้านจนชิดแนวรั้ว พบเห็นได้ทั่วไปในบ้านเดี่ยวที่มีที่ดินไม่มาก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วตามกฎหมายควบคุมอาคาร ผนังอาคารที่เป็นผนังทึบจะต้องห่างจากเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 50 ซม. (หรือไม่น้อยกว่า 1 เมตร สำหรับบ้านในเขตกทม.ที่มีพื้นที่ใช้สอยเกิน 300 ตารางเมตร) หากจะสร้างชิดเขตที่ดินต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างไรก็ตามการสร้างผนังอาคารชิดแนวรั้วมักเกิดปัญหาเรื่องความชื้นที่ผนัง มีราขึ้น และสีลอก หรือกระเบื้องหลุดล่อนได้ เนื่องจากน้ำฝนไหลเข้าไปขังในร่องระหว่างผนังกับรั้ว อีกทั้งผนังก่ออิฐด้านที่ชิดกับรั้วก็ไม่สามารถฉาบปูนปิดกันน้ำได้

 

              

              ภาพ: ปัญหาของผนังบ้านที่ต่อเติมชิดติดแนวรั้ว

 หากเป็นการทำพื้นและผนังใหม่ตั้งแต่ต้น ควรหล่อคอนกรีตพื้นและผนังเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนการทำบ่อน้ำ โดยผสมน้ำยากันซึมเข้าไปในเนื้อคอนกรีตด้วย ความสูงของผนังที่หล่อควรสูงอย่างน้อย 1 เมตรเพื่อช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมที่ผนังและลดปัญหาความชื้นจากดิน อย่างไรก็ตาม ความชื้นจากดินในช่องว่างระหว่างผนังและรั้วจะยังคงมีอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงควรหล่อผนังให้ห่างจากรั้วอย่างน้อย 10 ซม. เพื่อให้สามารถใช้อุปกรณ์ทาวัสดุกันซึมที่ผนังด้านที่ติดกับรั้วได้ (ประสิทธิภาพการป้องกันความชื้นหรือกันซึมจะดีกว่าการทาที่ผนังด้านในบ้าน) ส่วนผนังที่เหลือสามารถก่ออิฐตามความสูงที่ต้องการ และด้านบนของผนังให้ครอบปิดช่องว่างด้วย Flashing เพื่อป้องกันฝน

 

                
        ภาพ: การแก้ไขปัญหาความชื้นที่มาจากฝน และความชื้นจากใต้ดิน
 การแก้ปัญหาในเบื้องต้นควรติดตั้ง Flashing (สังกะสี/เมทัลชีท/สเตนเลส) พับเป็นตัวแอล ครอบยาวตลอดแนวระหว่างผนังกับรั้ว เพื่อป้องกันน้ำฝนไม่ให้ไหลเข้าไปในร่อง ในส่วนของผนังที่เกิดความชื้นควรรื้อกระเบื้องหรือลอกสีที่พองและลอกล่อนออก จากนั้นสามารถเลือกแนวทางแก้ไขได้ 2 วิธี วิธีแรกให้ทาผนังด้วยสีอะคริลิกประเภทที่ยอมให้ความชื้นระเหยออกมาได้ (สีหายใจได้) ซึ่งต้องควบคู่กับการระบายอากาศที่ดีภายในบ้านด้วย อีกวิธีคือทาด้วยวัสดุกันซึมประเภทอีพ็อกซีสำหรับทาที่ผนังด้านในโดยเฉพาะ (หาซื้อได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากยังมีผู้ผลิตน้อยราย ส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุกันซึมประเภทที่ทาด้านที่โดนความชื้น) จากนั้นจึงทาสีภายในหรือปูกระเบื้องตกแต่งตามต้องการ
                   
  ภาพ: การป้องกันปัญหาน้ำซึมและลดปัญหาความชื้นจากดินโดยการหล่อพื้นและผนังเป็นเชื่อมต่อกัน และทาวัสดุกันซึม
 นอกจากนี้ในกรณีที่รั้วเป็นของบ้านเราและไม่ได้ใช้ร่วมกับใคร หรือในกรณีที่รั้วใช้ร่วมกันและเพื่อนบ้านอนุญาต ก็อาจจะทุบรั้วแล้วก่อผนังทึบขึ้นมาแทนที่รั้ว โดยผนังจะต้องไม่ล้ำเข้าไปในเขตที่ดินข้างเคียง ก็จะแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างผนังกับรั้วไปได้

       โดยสรุปแล้วการสร้างผนังอาคารชิดรั้วมักจะต้องเจอปัญหาเรื่องน้ำและความชื้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงในการป้องกันและแก้ไข และอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ 100% รวมถึงพื้นที่โดยรอบที่ดินซึ่งมักเป็นแนวท่อระบายน้ำ การต่อเติมอาคารทับแนวท่อระบายน้ำจะทำให้มีฝาท่ออยู่ในบ้าน ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ โดยเฉพาะหากส่วนต่อเติมมีช่องระบายอากาศน้อย ดังนั้นหากไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรสร้างผนังอาคารชิดแนวรั้ว ควรเว้นอย่างน้อย 50 ซม. หรือ 1 เมตรจากแนวที่ดิน จะช่วยลดปัญหาเรื่องความชื้นที่ผนัง อีกทั้งยังถูกต้องตามกฎหมาย และผนังไม่ทับแนวท่อระบายน้ำใต้ดินซึ่งความเสี่ยงทั้งเรื่องกลิ่นและโอกาสในการรั่วซึมได้ในอนาคต