5 วิธีรับมือฝนตกหนัก จัดการบ้านให้พร้อมก่อนเจอปัญหา

ฝนตกทีไรต้องเกิดปัญหากับที่อยู่อาศัยหรือบ้านของเราทุกที ยิ่งตกหนักเท่าไหร่ปัญหาที่ตามมาก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เป็นประเทศที่มีฝนตกหนักตลอดฤดูฝน และหลายคนก็ประสบปัญหาที่ตามมาจากฝนตกไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลังคารั่ว น้ำซึมทั่วผนัง ฝ้าพัง จนไม่มีตังค์จะซ่อม ดังนั้นทางที่ดีที่สุดอย่าปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฝนตกหนัก โดยวิธีที่สามารถจะป้องกันได้ก็คือการเตรียมตัวรับมือจัดการบ้านให้พร้อมรับมือกับฝนตกหนัก

ก่อนฝนตกควรตรวจสอบหลังคาบ้านเป็นประจำ ปีละครั้งสองครั้งจะได้ไม่เสียตังค์ซ่อมเยอะ

 

2017-06-26_10-15-13

ภาพ via pad2.whstatic.com

การตรวจเช็คหลังคาถือเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านควรให้ความสำคัญอยู่เสมอไม่ว่าฝนจะตกหรือฝนจะไม่ตกก็ตาม เพราะหากหลังคาของบ้านคุณเกิดมีปัญหาขึ้นมาจริงๆ และปล่อยให้ถึงช่วงฤดูฝน หรือ เจอฝนตกหนักใส่ ถือว่าไม่ใชเรื่องดีแน่ๆ การตรวจเช็คหลังคาเป็นประจำจะช่วยให้หลังคาสามารถเผชิญกับฝนตกได้ และหลีกเลี่ยงปัญหาค่าใช้จ่ายในการซ่อมหลังคาที่ไม่ใช่ถูกๆ โดยสิ่งที่ต้องสำรวจหลักๆก็คือ รอยร้าว รอยรั่วของหลังคา ตรวจสอบให้ดีว่าวัสดุปูหลังคาหรือกระเบื้องหลังคาไม่มีรู หรือ สามารถขยับ เพื่อให้น้ำไหลเข้ามาได้ เมื่อพบจุดบกพ่องดังกล่าวก็ควรรีบดำเนินการแก้ไข อย่าปล่อยให้รอยรั่วนั้นต้องมารับมือกับหน้าฝน นอกจากนั้นอย่าลืมตรวจสอบรางน้ำอย่าให้มีคราบฝุ่นคราบใบไม้ไปสะสมอุดตันแล้วทำให้เกิดน้ำขัง เพราะสุดท้ายน้ำอาจจะซึมเข้ามาใต้หลังคาและเกิดผลกระทบต่อเพดานบ้านได้

 

รอยรั่วที่พื้น ผนัง เพดานรีบซ่อมตอนแผลยังเล็ก อย่ารอให้ฝนตกหนักเพราะมันจะเกินเยียวยา

 

ceiling-leak

ภาพ via connectedrestoration.comconnectedrestoration.com

สิ่งต่อมาที่ควรเช็คให้ดีก็คือช่องว่างที่รอยต่อกระเบื้องควรปิดสนิทไม่มีรอยรั่ว หากใครไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงให้สังเกตดูรอยยาแนวที่กระเบื้องหากตรงไหนที่มีรอยร้าว ชำรุด หรือ รอยรั่วให้รีบนำยาแนวมาฉาบหรืออุดทับเพื่อแก้ไข ไม่ให้พื้นที่รั่วเกิดแผลใหญ่เมื่อต้องรับมือกับหน้าฝน ส่วนผนังและเพดานก็เช่นกัน นอกจากรอยร้าวเล็กๆ ต่างๆ ที่ต้องตรวจเช็คให้ดี แล้วรีบแก้ไขด้วยการการสกัดผิวและฉาบใหม่ด้วยปูนที่ผสมสารกันซึมแล้ว เรื่องของสีทาบ้านก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ถือว่าสำคัญ หลายคนคงเคยเห็นปัญหาผนังในเรื่องของสีลอก สีหลุด ออกมาเป็นแผ่นๆ จนถึงขนาดต้องทาสีใหม่ทั้งอาคาร ตรงนี้ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ จะมีสีที่ป้องกันความชื้น และรักษาอุณหภูมิของผนงไว้ได้ ทำให้ไม่เกิดการหลุดหล่อนง่ายเมื่ออยู่ในหน้าฝน หรือ ในวันที่ฝนตกหนัก ใครที่กลัวปัญหานี้รีบใช้สีประเภทนี้ทาทับใหม่ก็ช่วยป้องกันได้ ซึ่งโดยปกติทุกๆ 10 ปีการทาสีภายในบ้านก็ถือเป็นหนึ่งเรื่องที่คนรักบ้านทำกันเป็นระจำอยู่แล้วด้วย

 

เช็คประตูหน้าต่างให้ดี ปิดผนึกมิดชิด ฝนตกแค่ไหน น้ำก็ไม่ไหลเข้าบ้าน

 

Damp window behind blinds - Steve Easley_0

ภาพ via greenbuildingadvisor.com

อีกหนึ่งเรื่องที่จะพลาดไม่ได้ก็คือจุดเสี่ยงจากบานประตู บานหน้าต่างๆ ที่มีรอยต่อกับวงกบ แต่ไม่สนิทมิดชิดทำให้เวลาฝนตกน้ำมีโอกาสไหลเข้ามาสู่ตัวบ้านได้  ดังนั้นหากใครที่มีปัญหาน้ำรั่วซึมในเวลาที่ฝนตกมาจากรอยต่อวงกบบานประตูหน้าต่าง วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นคือการใช้ยาง ซิลิโคน มาช่วยอุดปัญหารอยต่อนั้นๆ และตรวจสอบด้วยการเปิดปิดบานเข้าออกว่ามีความหนาแน่นหรือยังมีรอยที่น้ำฝนไหลผ่านเข้ามาได้อยู่หรือไม่ หากเป็นบานหน้าต่างอาจจะมีการเช็คด้วยการฉีดน้ำจากสายยางใส่ ส่วนถ้าเป็นบานประตู ลองปิดไฟในบ้านแล้วเอาไฟฉายส่องก็จะเห็นรอยต่อที่น้ำรั่วเข้ามาได้ ทั้งนี้เองพวกขอบยาง ซิลิโคนต่างๆ ก็จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 5 ปี ซึ่งไม่ต้องรอให้ถึงหน้าฝนหรือจังหวะที่ฝนตกหนักก็ได้แล้วค่อยเปลี่ยน ควรตรวจเช็คขอบยางวงกบอยู่ตลอด และทำการเปลี่ยนใหม่ทุกๆ 5 ปีก็จะดีมาก

 

ระบบไฟฟ้า ระบบระบายน้ำอย่าให้พลาด ฝนตกหนักเมื่อไหร่อาจมีอันตรายถึงชีวิต

 

161193-425x282-Improperly-wired-outlet-almost-causes-fire

ภาพ via cf.ltkcdn.net

ตรงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ไม่ควรพลาด ไม่ต้องรอให้ฝนตกก็ต้องตรวจเช็คเป็นประจำ เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ อาจส่งผลถึงชีวิต โดยเฉพาะระบบไฟฟ้า อาทิ เต้ารับไฟฟ้า สายไฟภายในต่างๆ จุดที่มีการสัมผัสบ่อยๆ อย่าง กริ่งหน้าบ้านก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ จุดไหนที่อยู่ภายนอกบ้านต้องรับกับสภาพอากาศหรือน้ำฝนก็ควรติดกล่องกันน้ำฝนให้เรียบร้อย ส่วนจุดไหนที่อยู่ภายในบ้านก็ไม่ควรปล่อยให้มีอายุการใช้งานมากเกินไป สามารถเช็คไฟรั่วต่างๆ ง่ายๆ ได้ด้วยการ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านทุกชนิด โดยไม่ต้องดึงคัทเอาท์ แล้วสังเกตที่มิเตอร์ไฟฟ้า หากแผ่นจานที่มิเตอร์หมุนอยู่แสดงว่าอาจจะมีไฟรั่วภายในบ้าน หรือ อีกวิธีหนึ่งก็สามารถใช้ไขควงวัดไฟแตะไปที่เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสวิตซ์ไฟต่างๆ หากมีไฟสีแดงขึ้นที่ไขควงแสดงว่ามีไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้น หากตรวจเช็คแล้วเกิดไฟรั่วก็ควรรีบเปลี่ยนอุปกรณ์หรือใช้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแล เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายในวันที่ฝนตก รวมไปถึงท่อระบายน้ำต่างๆ ในห้องน้ำ ตามซิงค์ ก็อย่าให้อุดตัน เพราะเมื่อฝนตกหนักๆ แล้วท่อภายในบ้านตัน ท่อเหล่านี้อาจเป็นจุดเชื่อมต่อของสัตว์ร้ายต่างๆ เข้ามาสู่ตัวบ้านได้ ดังนั้นระบบไฟและระบบน้ำในบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรพลาดในช่วงที่ฝนตกเลย

 

พิจารณาให้ดีหากบ้านอยู่ในพื้นเสี่ยงฝนตกหนักแล้วอาจเกิดน้ำท่วม เตรียมป้องกันไว้ ดีกว่าแก้

 

flood-071234

ภาพ via dreamicus.com

ในจุดนี้หากจะทราบว่าในช่วงที่ฝนตกหนัก บ้านของตัวเองอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ สามารถเช็คได้จากข่าวตามสื่อต่างๆ หรือในช่วงที่ฝนตกหนักลองย้อนกับไปดูพื้นที่น้ำท่วมต่างๆ ในปี 54 คงพอจะคาดเดาได้ว่าพื้นที่ไหนที่กำลังน้ำท่วม โดยปกติทั่วไปคนส่วนใหญ่นอกจากติดตามข่าวแล้ว ก็สามารถเข้าไปที่ www.thaiflood.com ศูนย์ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการในการให้ข้อมูลข่าวสารในด้านต่างๆ ที่เราควรจะรู้ไว้เกี่ยวกับอุทกภัยที่มาจากฝนตกหนัก ไม่ว่าจะเป็นการประกาศเตือนภัยด่วนสำหรับพื้นที่ที่กำลังจะประสบภัย หรือ กระทั่งวิธีรับมือต่างๆ ฉะนั้นในช่วงหน้าฝนหรือช่วงเวลาที่ฝนตกกันติดต่อเป็นระยะยาว หากไม่มั่นใจคิดว่าพื้นที่ตั้งของบ้านตนเองอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ก็ควรหากระสอบทรายกั้นน้ำมาวางไว้ล่วงหน้า หรือ อาจจะขนย้ายสิ่งของสำคัญขึ้นไปอยู่ในชั้น 2 เพื่อรับมือให้เบื้องต้น หากไม่ได้เกิดอุทกภัยจากฝนที่ตกหนักมากๆ จริงๆ ก็ขอให้ถือว่าป้องกันไว้ก่อน อย่าไปกลัวเสียแรงที่ต้องยกของขึ้นลง เพราะยังไงมันคุ้มค่ากว่าหากเกิดน้ำท่วมขึ้นจริงแล้วต้องสูญเสียทุกอย่างไป