3 ขั้นตอนควรรู้... ก่อนซื้อหลอดไฟ

3 ขั้นตอนควรรู้...ก่อนซื้อหลอดไฟ

1.ความประหยัดไฟ

หลอดไฟนั้นมีค่าความสว่างที่แตกต่างไปในแต่ละรุ่นซึ่งค่าความสว่าง มีหน่วยเป็น Lumen (lm) และในบางรุ่นที่มีค่าความสว่างมากแต่มีกำลังวัตต์ (ค่าความกินไฟ) ที่น้อยกว่าบางรุ่นซึ่งก่อนจะเลือกซื้อหลอดไฟควรสอบถามพนักงานหรืออ่านรายละเอียดข้างกล่องให้ดีเพื่อความประหยัดและค่าความสว่างที่เหมาะสมในการใช้งานนั้นเองค่ะ

2.สีของหลอดไฟ

สีของหลอดไฟนั้นส่งผลต่อสายตาของแต่ละคนไม่เหมือนกันซึ่งหลอดไฟมีให้เลือกหลายสี ดังนี้ 

1) หลอด Warm white จะให้แสงสีแดงอมส้ม หรือขาวอมเหลือง เป็นสีโทนร้อน โดยค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ 2,700 – 3,300 เคลวิน เหมาะกับบรรยากาศการให้ความอบอุ่น และรู้สึกผ่อนคลาย 

2) หลอด Cool white จะให้แสงออกมาทางสีขาว โทนเย็น สบายตา โดยค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ 4,000 – 4,500 เคลวิน นิยมใช้กันในร้านขายผักหรือผลไม้ เพื่อช่วยเพิ่มสีสันของสินค้าให้ดูน่าซื้อมายิ่งขึ้น

3) หลอด Daylight ให้แสงสีขาวอมฟ้านิดๆ แต่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติในช่วงกลางวัน เราจึงพบเห็นได้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน โดยค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ 6,500 เคลวิน ขึ้นไป

3.ขนาดของขั้วหลอดไฟ

การดูขั้วหลอดไฟสำคัญมากเพราะหากซื้อมาผิดนอกจากจะใช้งานไม่ได้แล้วยังต้องเสียเวลาไปซื้อใหม่อีกด้วยซึ่งขั้วของหลอดไฟนั้นมีหลายแบบดังนี้ ถ้าขั้วหลอดเป็นแบบเกลียว (Edison Lamp Base) หรือตระกูล E  จะใช้กับหลอดไฟฐานเกลียวอย่างหลอดไส้ (Incandescent) หลอดจำปา (Candle Shape) หรือพวกหลอดตะเกียบ (Compact Fluorescent) โดยขั้วหลอดที่เป็นที่นิยมใช้กันทั่วไปก็คือ E27 และ E14 โดยตัวเลขหมายถึงเส้นผ่าศูนย์กลางของหลอด มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร แต่ถ้าเป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent) จะมีเขี้ยวยื่นออกมาจากปลายหลอด เพื่อสวมเข้ากับชุดรางที่ใช้งานร่วมกับบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์ ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้กันตามบ้านนั้นก็คือ หลอด T8 หรือหลอดผอมที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง แต่ก็ยังมีหลอดผอมจอมประหยัดหรือที่เรียกว่าหลอด T5 น้องเล็กสุดที่ให้แสงสว่างเทียบเท่ากับหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป แต่กินไฟน้อยกว่า โดยตัว T ย่อมาจาก (Tubular) และตัวเลขตามหลังจะบอdขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของหลอด มีหน่วยเป็นหุน